04 ก.ค. 2568
ในอดีต “พื้นที่สาธารณะ” ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ ลานกิจกรรม หรือพื้นที่เปิดโล่ง มักถูกมองว่าเป็นเพียงพื้นที่ว่างเปล่าที่รอการพัฒนา แต่ในปัจจุบันมุมมองนี้ได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะพื้นที่สาธารณะกลายเป็นหัวใจสำคัญของเมือง ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิต หล่อเลี้ยงสุขภาพกายและใจของผู้คน รวมถึงส่งเสริมความสัมพันธ์ของชุมชน
ด้วยเหตุนี้ การออกแบบพื้นที่สาธารณะจึงต้องปรับตัวให้สอดคล้องกับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อสร้างสรรค์พื้นที่ที่สะท้อนวิถีชีวิตจริงของผู้คน และตอบโจทย์ทุกมิติของการใช้ชีวิตอย่างแท้จริง
พื้นที่สาธารณะคืออะไร ?
พื้นที่สาธารณะ หมายถึง พื้นที่เปิดโล่งที่ทุกคนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์ร่วมกันได้ ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ ลานกิจกรรม สวนหย่อม หรือพื้นที่สีเขียวในรูปแบบต่าง ๆ พื้นที่เหล่านี้มีบทบาทสำคัญในการเป็นจุดพบปะ พักผ่อน และทำกิจกรรมร่วมกันของผู้คนในสังคม นอกจากนี้ พื้นที่สาธารณะยังช่วยสร้างสมดุลให้แก่เมือง ทั้งในด้านระบบนิเวศ การส่งเสริมสุขภาพ และการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนในชุมชน
หลักการออกแบบพื้นที่สาธารณะที่ดี
การออกแบบพื้นที่สาธารณะที่มีคุณภาพและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นสวนสาธารณะ ลานกิจกรรม หรือพื้นที่สีเขียวรูปแบบต่าง ๆ ควรมีองค์ประกอบหลัก ดังนี้
พื้นที่สาธารณะควรเชื่อมต่อกับระบบขนส่งสาธารณะ มีทางเข้า-ออกหลายทางเพื่อกระจายการใช้งานและลดความแออัด นอกจากนี้ ต้องออกแบบให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม เพื่อส่งเสริมการใช้งานอย่างกว้างขวางและครอบคลุมทุกกลุ่มคน รวมถึงผู้พิการและผู้สูงอายุ
ควรมีการติดตั้งแสงสว่างที่เพียงพอในทุกจุด มีมุมมองที่เปิดโล่งและสามารถมองเห็นได้ชัดเจน รวมถึงระบบรักษาความปลอดภัยที่เหมาะสม เช่น กล้องวงจรปิด หรือเจ้าหน้าที่ดูแล เพื่อป้องกันเหตุไม่พึงประสงค์และสร้างบรรยากาศที่ปลอดภัยตลอดเวลา
พื้นที่สาธารณะควรออกแบบให้รองรับกิจกรรมที่หลากหลาย และสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้งานได้ตามความต้องการของผู้ใช้ในแต่ละช่วงเวลา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความน่าสนใจของพื้นที่
การมีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน เช่น ที่นั่งพักผ่อนที่เพียงพอ ร่มเงาจากต้นไม้หรือหลังคา รวมถึงบริการพื้นฐานอย่างห้องน้ำและจุดบริการน้ำดื่ม จะช่วยสร้างความสะดวกสบายและส่งเสริมการใช้พื้นที่สาธารณะอย่างยาวนาน
พื้นที่สาธารณะที่ดีควรมีกิจกรรมและองค์ประกอบที่ดึงดูดความสนใจ เช่น ภูมิทัศน์ที่สวยงาม งานศิลปะกลางแจ้ง จุดถ่ายภาพ หรือพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อสร้างความมีชีวิตชีวาและกระตุ้นให้ผู้คนมาใช้พื้นที่อย่างต่อเนื่อง
การเลือกใช้วัสดุที่ทนทาน ดูแลรักษาง่าย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น วัสดุรีไซเคิล ระบบจัดการน้ำฝน หรือการปลูกพืชพื้นถิ่น จะช่วยให้พื้นที่สาธารณะสามารถใช้งานได้อย่างยั่งยืนและไม่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติ
การเปิดโอกาสให้ชุมชนมีส่วนร่วมในการออกแบบและดูแลรักษาพื้นที่สาธารณะตั้งแต่ต้น จะช่วยให้พื้นที่นั้นตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของผู้ใช้ และสร้างความรับผิดชอบร่วมกันในการรักษาพื้นที่ให้ยั่งยืนต่อไป
5 เทรนด์การออกแบบสวนหรือพื้นที่สาธารณะยุคใหม่
ปัจจุบัน การออกแบบพื้นที่สาธารณะ ได้พัฒนาไปสู่แนวทางที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานอย่างครบวงจร โดยมีเทรนด์สำคัญที่กำหนดทิศทางการออกแบบ ดังนี้
1. การออกแบบอารยสถาปัตย์ (Universal Design)
การออกแบบพื้นที่สาธารณะที่ให้ความสำคัญกับผู้ใช้งานทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้พิการ โดยคำนึงถึงความสะดวกในการเข้าถึง ความปลอดภัยที่ได้มาตรฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน เพื่อให้ทุกคนสามารถใช้พื้นที่ได้อย่างเท่าเทียมและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
2. การผสานเทคโนโลยี (Technology Integration)
การผสานเทคโนโลยีเข้ากับพื้นที่สาธารณะอย่างลงตัว ตั้งแต่การให้บริการ WiFi ฟรี การติดตั้งจุดชาร์จแบตเตอรี่ ไปจนถึงการพัฒนาแอปพลิเคชันแนะนำเส้นทางและระบบควบคุมแสงสว่างอัจฉริยะ ซึ่งช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้งานให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น
3. ความยั่งยืน (Sustainability)
แนวคิดการออกแบบที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร ทั้งการเลือกใช้วัสดุรีไซเคิล การติดตั้งแผงพลังงานแสงอาทิตย์ การวางระบบจัดการน้ำฝน ตลอดจนการคัดสรรพรรณไม้ที่ทนทานต่อสภาพอากาศ เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวที่ยั่งยืน
4. ชุมชนและการสร้างปฏิสัมพันธ์ทางสังคม (Community & Social Interaction)
การออกแบบที่เน้นจัดสรรพื้นที่อเนกประสงค์สำหรับทำกิจกรรมกลุ่ม พื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็ก และมุมพักผ่อนที่เอื้อต่อการพบปะพูดคุย ซึ่งช่วยหล่อหลอมให้เกิดความสัมพันธ์ที่ดีและความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน
5. ศิลปะและวัฒนธรรม (Art & Culture)
การผสมผสานพื้นที่สาธารณะเข้ากับศิลปะและวัฒนธรรม เช่น การจัดแสดงงานศิลปะ การจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรม การสร้างพื้นที่สำหรับแสดงดนตรี เป็นต้น เพื่อสร้างบรรยากาศที่น่าสนใจและส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
วัน แบงค็อก (One Bangkok) กับการออกแบบพื้นที่สาธารณะแห่งอนาคต
วัน แบงค็อก (One Bangkok) ได้นำหลักการและเทรนด์การออกแบบพื้นที่สาธารณะยุคใหม่มาปรับใช้จนกลายเป็นต้นแบบพื้นที่สาธารณะแห่งอนาคต เน้นสร้างพื้นที่สีเขียวและสวนใจกลางเมืองที่ร่มรื่น พร้อมพื้นที่เปิดโล่งรองรับกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ รวมถึงพื้นที่สำหรับงานศิลปะและวัฒนธรรม เพื่อให้ตอบโจทย์หลักการออกแบบสำคัญ เช่น การเข้าถึงง่าย ความปลอดภัย ความยืดหยุ่นในการใช้งาน ความสะดวกสบาย ความยั่งยืน และการมีส่วนร่วมของชุมชนอย่างแท้จริง
ด้วยพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่งกว่า 80,000 ตารางเมตร ที่เต็มไปด้วยพืชพรรณนานาชนิด และเส้นทางเดินยาวกว่า 5 กิโลเมตร ที่ให้ผู้คนสามารถเดินเล่น พักผ่อน และทำกิจกรรมกลางแจ้งได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้ วัน แบงค็อก (One Bangkok) ยังผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่สะดวกสบายและปลอดภัย เพื่อให้เป็นคอมมูนิตี้ที่ทุกคนสามารถมาใช้ชีวิต แบ่งปันประสบการณ์ และสร้างแรงบันดาลใจร่วมกันได้อย่างอิสระและยั่งยืน
ลองมาสัมผัสด้วยตัวคุณเองที่ วัน แบงค็อก (One Bangkok) แล้วคุณจะพบว่าที่นี่ไม่ใช่แค่พื้นที่ธรรมดา แต่คือเมืองอัจฉริยะสีเขียวใจกลางกรุงเทพฯ ที่รวมทุกสิ่งที่คุณต้องการไว้ในที่เดียว
แท็ก
แชร์