26 ธ.ค. 2568
Key takeaway / Summary of topic answer
ภาวะโลกร้อน เกิดจากการสะสมก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมมนุษย์ทั้งการเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล การตัดไม้ทำลายป่า การเกษตรและอุตสาหกรรม ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพ เศรษฐกิจและสังคม รวมถึงสิ่งแวดล้อมอย่างกว้างขวาง ตั้งแต่คลื่นความร้อน ภัยพิบัติ ไปจนถึงความเสียหายของระบบนิเวศ โดยวัน แบงค็อก (One Bangkok) ซึ่งเป็นต้นแบบเมืองยั่งยืน ได้นำแนวคิดเมืองสีเขียวและเมืองอัจฉริยะมาแก้ปัญหา เพื่อรับมือสิ่งที่อาจเกิดขึ้นจากผลกระทบของภาวะโลกร้อนในอนาคต
Table of Content
สาเหตุของภาวะโลกร้อนมาจากอะไร ?
ผลกระทบของภาวะโลกร้อน
1. ผลกระทบต่อสุขภาพ
2. ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม
3. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ
วัน แบงค็อก (One Bangkok) เมืองยั่งยืนที่ใส่ใจปัญหาสิ่งแวดล้อม
1. พื้นที่สีเขียวและการออกแบบเมืองแบบยั่งยืน
2. การใช้พลังงานสะอาดและเทคโนโลยีอัจฉริยะ
3. ระบบจัดการน้ำและลดของเสีย
4. ส่งเสริมการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัญหาโลกร้อน
Q : ภาวะโลกร้อนส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร ?
Q : ภาวะโลกร้อนส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร ?
Q : ทำไมภาวะโลกร้อนจึงกระทบเศรษฐกิจและสังคม ?
Q : นอกจากการลด CO2 แล้ว การเพิ่มพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ ช่วยรับมือกับภาวะโลกร้อนในด้านใดอีกบ้าง ?
ยิ่งนานวันเข้า เหตุการณ์อย่างอากาศร้อนจัด น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ฝนตกหนักจนเกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ยิ่งไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่เป็นสัญญาณของภาวะโลกร้อนที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ รวมถึงชีวิตประจำวัน การตระหนักรู้ถึงสาเหตุและผลกระทบของภาวะโลกร้อนจึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อวางแผนและปรับตัวให้เหมาะสม
สาเหตุของภาวะโลกร้อนมาจากอะไร ?
ภาวะโลกร้อน (Global Warming) คือปรากฏการณ์ที่อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากการสะสมของก๊าซในชั้นบรรยากาศที่ทำหน้าที่กักเก็บความร้อน โดยมีสาเหตุหลัก ได้แก่
การเผาเชื้อเพลิงฟอสซิล : เป็นสาเหตุอันดับหนึ่งของปัญหาโลกร้อน เนื่องจากมีการเผาไหม้น้ำมัน ถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ เพื่อผลิตพลังงานไฟฟ้า ขนส่ง และขับเคลื่อนอุตสาหกรรม ทำให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ในปริมาณสูง
การตัดไม้ทำลายป่า : ป่าไม้ทำหน้าที่เป็นปอดของโลกที่ดูดซับ CO2 แต่เมื่อมีการตัดไม้ทำลายป่าอย่างต่อเนื่อง พื้นที่ดูดซับ CO2 ก็ย่อมลดลงตามไปด้วย อีกทั้งการเผาทำลายป่าไม้ยังเป็นการปล่อย CO2 ที่สะสมอยู่ในต้นไม้ออกสู่บรรยากาศอีกด้วย
การเกษตรและอุตสาหกรรม : กิจกรรมทางการเกษตร เช่น การทำนาข้าว การเลี้ยงปศุสัตว์ โดยเฉพาะวัว มีการปล่อยก๊าซมีเทน (CH4) ซึ่งเป็นก๊าซเรือนกระจกที่มีศักยภาพสูงกว่า CO2 หลายสิบเท่า นอกจากนี้ อุตสาหกรรมการผลิตที่มีกระบวนการเผาไหม้ยังปล่อยควันออกสู่บรรยากาศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมปุ๋ยเคมีและสารเคมีบางชนิดยังปล่อยไนตรัสออกไซด์ (N2O) ออกมา ซึ่งเป็นก๊าซที่มีศักยภาพในการกักเก็บความร้อนสูง อีกทั้งยังเป็นสารทำลายชั้นโอโซนในบรรยากาศ ส่งผลให้รังสี UV จากดวงอาทิตย์ส่องถึงพื้นผิวโลกมากขึ้น
พฤติกรรมการใช้ชีวิตของผู้คน : สาเหตุของภาวะโลกร้อน ยังรวมถึงการใช้รถยนต์ส่วนตัวที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงมากเกินไป การใช้พลังงานไฟฟ้าแบบไม่ประหยัดในครัวเรือนและการบริโภคที่ก่อให้เกิดขยะในปริมาณมาก ซึ่งการจัดการขยะโดยการเผาก็ใช้พลังงานและปล่อยมลพิษเช่นกัน
เมื่อรวมกันแล้ว ก๊าซเหล่านี้ทำให้เกิดปรากฏการณ์เรือนกระจก (Greenhouse Effect) ส่งผลให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น ซึ่งการสะสมของความร้อนในชั้นบรรยากาศนี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรุนแรง ส่งผลให้โลกร้อนขึ้นอย่างเสียสมดุลและเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาภาวะโลกร้อนในปัจจุบัน
ผลกระทบของภาวะโลกร้อน
ผลกระทบของภาวะโลกร้อน ไม่ได้จำกัดอยู่แค่การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิเท่านั้น แต่ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง ดังนี้
1. ผลกระทบต่อสุขภาพ
การเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศจากปัญหาภาวะโลกร้อนส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของมนุษย์ เพราะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของโรคภัยที่เกี่ยวข้องกับความร้อนที่เพิ่มขึ้น เช่น การเสียชีวิต หรือเจ็บป่วยจากภาวะลมแดด (Heatstroke) นอกจากนี้ ปัญหาโลกร้อน ยังทำให้เกิดมลพิษทางอากาศเพิ่มขึ้นจากการเกิดไฟป่าและระดับโอโซนที่สูงขึ้น ซึ่งนำไปสู่ปัญหาสุขภาพในระบบทางเดินหายใจของคนเมือง
2. ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและสังคม
ผลกระทบของภาวะโลกร้อนก่อให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อความมั่นคงทางอาหาร เนื่องจากความแห้งแล้งและน้ำท่วมส่งผลกระทบโดยตรงต่อผลผลิตทางการเกษตร นอกจากนี้ ยังอาจมีภัยพิบัติทางธรรมชาติที่เข้ามาทำลายโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของเมือง ทั้งถนน อาคาร ระบบไฟฟ้า ซึ่งต้องใช้งบประมาณมหาศาลในการฟื้นฟู
3. ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศ
ภาวะโลกร้อนก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสิ่งแวดล้อมที่น่ากังวลหลายประการ เนื่องจากอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้นนำไปสู่การเกิดคลื่นความร้อนที่รุนแรงและยาวนานขึ้น ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงรูปแบบสภาพอากาศอย่างรุนแรง นำมาซึ่งภัยพิบัติ เช่น พายุ น้ำท่วม ภัยแล้ง ปัญหาไฟป่า ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบนิเวศ โดยเฉพาะการฟอกขาวของปะการังและการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตทั่วโลกที่ไม่สามารถปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้ทัน
วัน แบงค็อก (One Bangkok) เมืองยั่งยืนที่ใส่ใจปัญหาสิ่งแวดล้อม
การต่อสู้กับภาวะโลกร้อน นอกจากการแก้ปัญหาตั้งแต่ระดับนโยบายไปจนถึงมาตรการการปฏิบัติที่ต้องร่วมมือกันทุกประเทศทั่วโลก ยังต้องควบคู่กับการเริ่มต้นลงมือพัฒนาเมืองที่ยั่งยืนให้เกิดขึ้นจริง โดย วัน แบงค็อก (One Bangkok) เป็นต้นแบบของการสร้างเมืองอัจฉริยะและเมืองสีเขียวในกรุงเทพฯ โดยผสานเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม เพื่อช่วยรับมือกับปัญหาโลกร้อน ตามมาตรการ ดังนี้
1. พื้นที่สีเขียวและการออกแบบเมืองแบบยั่งยืน
วัน แบงค็อก (One Bangkok)ให้ความสำคัญกับการออกแบบทางสถาปัตยกรรมที่เกื้อกูลต่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิต โดยมีการจัดสรรพื้นที่เปิดโล่งและพื้นที่สีเขียวในสัดส่วนที่สูง เพื่อให้เป็น ‘ปอด’ สำหรับคนเมือง พร้อมทั้งยึดมั่นในมาตรฐานการก่อสร้างระดับโลกเพื่อความยั่งยืนสูงสุด
ปอดของเมือง : จัดสรรพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่งมากกว่า 50 ไร่ เพื่อเพิ่มพื้นที่ดูดซับ CO2 และลดอุณหภูมิในเขตเมือง
มาตรฐานระดับโลก : อาคารทั้งหมดได้รับการออกแบบตามมาตรฐาน LEED ระดับแพลตินัม ซึ่งเป็นมาตรฐานสูงสุดด้านการประหยัดพลังงานและการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้วัสดุก่อสร้างจากวัสดุรีไซเคิลและใช้วัสดุที่มีในท้องถิ่น โดยสร้างทุกอาคารขึ้นตามมาตรฐานการประหยัดพลังงานและน้ำของ LEED รวมถึงมีระบบทำความเย็นแบบรวมศูนย์และระบบบำบัดน้ำเสียเพื่อใช้ทรัพยากรให้คุ้มค่ามากที่สุด
2. การใช้พลังงานสะอาดและเทคโนโลยีอัจฉริยะ
เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนและสร้างประสิทธิภาพในการใช้พลังงานอย่างสูงสุด วัน แบงค็อก (One Bangkok) จึงลงทุนในระบบพลังงานอัจฉริยะและโครงสร้างพื้นฐานด้านการจัดการพลังงาน ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเป็นเมืองอัจฉริยะ
ระบบทำความเย็นแบบรวมศูนย์ (District Cooling System) : ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าระบบปรับอากาศทั่วไปมาก ช่วยลดการใช้พลังงานโดยรวมของโครงการได้อย่างมหาศาล
ระบบการจัดการพลังงาน (EMS) : ระบบ Energy Management System คอยควบคุมและมอนิเตอร์การใช้ไฟฟ้าและความร้อนแบบเรียลไทม์ ทำให้การจัดการพลังงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
สมาร์ตกริด : โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะที่พร้อมบริหารจัดการโหลดพลังงานและรองรับระบบพลังงานหมุนเวียนในอนาคต
3. ระบบจัดการน้ำและลดของเสีย
การบริหารจัดการทรัพยากรอย่างรอบด้านถือเป็นหัวใจของเมืองยั่งยืน วัน แบงค็อก (One Bangkok) จึงได้ติดตั้งระบบที่ช่วยการหมุนเวียนใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ช่วยลดการใช้ทรัพยากรใหม่เกินความจำเป็น และลดปริมาณของเสียที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
การบำบัดและนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ (Water Recycling) : ในทุก ๆ ระบบที่สามารถนำน้ำที่ผ่านการบำบัดจนอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานกลับเข้าสู่กระบวนการใหม่ เช่น การเป็นน้ำหล่อเย็นในระบบปรับอากาศ การเป็นน้ำหมุนเวียนในส่วนพื้นที่สีเขียวเพื่อลดอุณหภูมิบริเวณโดยรอบอาคาร หรือใช้รดน้ำต้นไม้และประโยชน์อื่น ๆ ให้คุ้มค่าที่สุด ซึ่งช่วยลดการใช้ทรัพยากรน้ำใหม่ลงได้มาก
การวางแผนการจัดการขยะ : ที่เน้นการลดปริมาณขยะ (Reduce) และการนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) ตั้งแต่ต้นทาง
4. ส่งเสริมการเดินทางที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
เนื่องจากการขนส่งเป็นหนึ่งในสาเหตุของภาวะโลกร้อนหลักในเขตเมือง วัน แบงค็อก (One Bangkok) จึงออกแบบโครงสร้างที่ลดความจำเป็นในการใช้รถยนต์ส่วนตัวและส่งเสริมการเข้าถึงระบบขนส่งสาธารณะ
การสร้างทางเดินเท้าที่สะดวกสบายและร่มรื่น : เพื่อสนับสนุนให้ผู้คนเดิน เสริมสร้างสุขภาพ และเข้าถึงการขนส่งสาธารณะภายในและภายนอกพื้นที่ได้อย่างง่ายดาย
การเชื่อมต่อกับระบบขนส่งมวลชน : เช่น การเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า MRT สถานีลุมพินี พร้อมบริการรับ-ส่งด้วยรถ EV Shuttle Service จาก BTS สถานีเพลินจิต เพื่อลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการก่อให้เกิดก๊าซและความร้อนในเขตเมือง
ด้วยแนวทางเหล่านี้ วัน แบงค็อก (One Bangkok) จึงถือเป็นต้นแบบเมืองสีเขียวและเมืองอัจฉริยะในกรุงเทพฯ ที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการลดต้นเหตุและผลกระทบจากภาวะโลกร้อน และสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ผู้คน เรียนรู้แนวคิดและนวัตกรรมเพื่อสร้างเมืองยั่งยืน พร้อมสำรวจพื้นที่สีเขียวและเทคโนโลยีอัจฉริยะได้ที่ วัน แบงค็อก (One Bangkok)
ข้อมูลอ้างอิง
Global Warming. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 จาก https://education.nationalgeographic.org/resource/global-warming/
The Effects of Climate Change. สืบค้นเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2568 จาก https://science.nasa.gov/climate-change/effects/
FAQ
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับปัญหาโลกร้อน
Q : ภาวะโลกร้อนส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร ?
A: เพิ่มความเสี่ยงโรคที่เกี่ยวกับความร้อน เช่น ลมแดด และก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศที่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ
Q : ภาวะโลกร้อนส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมอย่างไร ?
A: ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น เกิดคลื่นความร้อน พายุ ภัยแล้ง ไฟป่า และปะการังฟอกขาว รวมถึงการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตบางชนิด
Q : ทำไมภาวะโลกร้อนจึงกระทบเศรษฐกิจและสังคม ?
A : เพราะความแห้งแล้ง น้ำท่วม และภัยพิบัติ สามารถทำลายผลผลิตทางการเกษตร โครงสร้างพื้นฐาน การใช้ชีวิตอย่างยากลำบากของประชาชน และต้องใช้งบประมาณในการซ่อมแซมฟื้นฟูจำนวนมหาศาล
Q : นอกจากการลด CO2 แล้ว การเพิ่มพื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ ช่วยรับมือกับภาวะโลกร้อนในด้านใดอีกบ้าง ?
A : พื้นที่สีเขียวช่วยลดปรากฏการณ์ “เกาะความร้อนในเมือง (Urban Heat Island Effect)” โดยการระบายความร้อนผ่านการคายน้ำของพืช ซึ่งช่วยลดอุณหภูมิโดยรอบได้หลายองศา ทำให้เมืองเย็นลงและลดความต้องการใช้เครื่องปรับอากาศ ซึ่งเท่ากับการลดการใช้พลังงานโดยอ้อม
แท็ก
แชร์