รู้หรือไม่ ? สิ่งที่ทำให้ วัน แบงค็อก (One Bangkok) ได้รับการขนานนามว่าเป็น "เมืองต้นแบบของอนาคต" คือ การนำเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อมมาใช้ในทุกมิติ ตั้งแต่การใช้พลังงานสะอาด ไปจนถึงระบบจัดการขยะที่มีประสิทธิภาพ เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

ชวนมารู้จักกับเรื่องราวของการสร้างเมืองที่ "ยั่งยืน" ที่สุดในประเทศไทย ผ่านการทำความเข้าใจเรื่องเทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม ที่ วัน แบงค็อก (One Bangkok) นำมาปรับใช้

เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อมใน วัน แบงค็อก (One Bangkok) : ก้าวใหม่ของ Green Technology เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

ในโลกที่ความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนา การสร้างเมืองใหญ่ที่ทั้งล้ำสมัยและใส่ใจสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่เพียงเรื่องของวิสัยทัศน์ แต่คือความจำเป็นที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง วัน แบงค็อก (One Bangkok) ได้ก้าวขึ้นมาเป็นตัวอย่างสำคัญของการใช้เทคโนโลยีสีเขียว (Green Technology) ที่ล้ำสมัยที่สุดในภูมิภาคเอเชีย เพื่อสร้างนิยามใหม่ของการใช้ชีวิตและการทำงาน ในยุคที่โลกต้องเผชิญกับวิกฤตด้านสิ่งแวดล้อม

Green Technology คืออะไร และทำไมจึงสำคัญ?

Green Technology หรือเทคโนโลยีสีเขียว คือ การพัฒนาเทคโนโลยีที่ออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ขณะเดียวกันยังส่งเสริมความยั่งยืนในระยะยาว โดยมุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และการสร้างวงจรที่สนับสนุนเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)

สำหรับ วัน แบงค็อก (One Bangkok) Green Technology คือหัวใจสำคัญของการวางแผนพัฒนา ด้วยเป้าหมายการเป็นโครงการเมืองต้นแบบที่มี Carbon Footprint ต่ำที่สุดในประเทศไทย

เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมใน วัน แบงค็อก (One Bangkok) มีอะไรบ้าง?

ระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy Management)

วัน แบงค็อก (One Bangkok) ได้นำเทคโนโลยี IoT (Internet of Things) และ AI (Artificial Intelligence) มาใช้ในการบริหารจัดการพลังงานภายในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดการใช้พลังงานในช่วงเวลาที่ไม่จำเป็น เช่น การตรวจจับการใช้พลังงานในแต่ละจุด รวมถึงการปรับลดพลังงานในเวลาที่ไม่มีการใช้งาน เช่น การควบคุมแสงสว่าง หรือการปรับอุณหภูมิในพื้นที่ที่ไม่ได้ใช้งาน โดยระบบนี้ยังช่วยให้สามารถใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) เช่น แสงอาทิตย์ และพลังงานจากการเก็บรวบรวมความร้อนจากแหล่งธรรมชาติ เพื่อลดการพึ่งพาพลังงานไฟฟ้าจากแหล่งภายนอก ทำให้ภาพรวมทั้ง วัน แบงค็อก (One Bangkok) สามารถลด Carbon Footprint ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน (Sustainable Water Management)

วัน แบงค็อก (One Bangkok) ให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ โดยนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัยเข้ามาบริหารจัดการน้ำเสียทั่วทั้งโครงการ

หนึ่งในเทคโนโลยีสำคัญคือ ‘ระบบรีไซเคิลน้ำเสีย’ ที่สามารถนำน้ำใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ได้มากถึง 75% ลดการพึ่งพาน้ำประปาและลดการปล่อยน้ำเสียอย่างมีนัยสำคัญ โดยน้ำที่ผ่านกระบวนการบำบัดถูกนำไปใช้ซ้ำในกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การรดน้ำต้นไม้ และการชำระล้างสุขภัณฑ์ ส่งผลให้โครงการสามารถลดการใช้น้ำได้มากกว่า 2.7 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี

การจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพเช่นนี้ ไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังเป็นการลดความเสี่ยงจากภาวะขาดแคลนน้ำในอนาคต เสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับทุกคนในระยะยาวอย่างยั่งยืน

อาคารประหยัดพลังงาน (Green Building Technology)

ทุกอาคารภายใน วัน แบงค็อก (One Bangkok) ได้รับการออกแบบให้มีคุณสมบัติการประหยัดพลังงาน และใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ตามมาตรฐานระดับสากล LEED (Leadership in Energy and Environmental Design) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ให้การรับรองสำหรับการออกแบบและการสร้างอาคารที่มีประสิทธิภาพในด้านการใช้พลังงานและการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (Carbon Emission) ตั้งแต่การเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่ลดการปล่อยคาร์บอน ไปจนถึงการออกแบบที่ใช้พลังงานน้อยลง เช่น การใช้ระบบ HVAC (Heating, Ventilation, and Air Conditioning) ที่มีประสิทธิภาพ และการออกแบบอาคารให้สามารถรับแสงธรรมชาติได้มากขึ้น เพื่อลดการใช้พลังงานในช่วงกลางวัน

ระบบขนส่งที่ไม่ก่อให้เกิด Carbon Footprint (Eco-Friendly Transportation)

วัน แบงค็อก (One Bangkok) ได้มีการใช้ยานพาหนะพลังงานสะอาด เช่น รถยนต์ไฟฟ้า (EV) พร้อมสถานีชาร์จครบวงจรภายในพื้นที่ นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้ผู้คนเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะที่สะดวกสบาย และเชื่อมต่อได้ง่ายกับพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการใช้รถยนต์ส่วนตัว  รวมทั้งการสร้างทางเดินที่รองรับการเดินเท้า เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเดินไปยังจุดต่าง ๆ ใน วัน แบงค็อก (One Bangkok)ได้โดยสะดวกและปลอดภัย

การจัดการขยะครบวงจร (Waste Management Technology)

ใน วัน แบงค็อก (One Bangkok) ระบบการจัดการขยะได้รับการออกแบบอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้ระบบคัดแยกขยะอัตโนมัติ เพื่อแยกขยะจากแหล่งต้นทาง และนำขยะอินทรีย์มาผลิตพลังงานชีวมวล ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะที่ไปถึงหลุมฝังกลบ นอกจากนี้ ขยะรีไซเคิลยังสามารถนำไปใช้งานต่อได้ในกระบวนการต่าง ๆ เช่น การนำขยะพลาสติกมาใช้ในการผลิตวัสดุก่อสร้าง หรือการใช้ขยะอินทรีย์ในระบบการเกษตร

การบูรณาการเทคโนโลยีสีเขียว ไม่เพียงช่วยลดการปล่อยคาร์บอนในพื้นที่ แต่ยังสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อชุมชนโดยรอบ ซึ่งวัน แบงค็อก (One Bangkok) เป็นตัวอย่างที่ชี้ให้เห็นว่า เมืองยั่งยืนและทันสมัย สามารถผสมผสานกันได้อย่างลงตัว

เพราะโลกในวันพรุ่งนี้ ต้องการนวัตกรรมจากวันนี้ การลงทุนในเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม จึงไม่ใช่เพียงเรื่องของความคุ้มค่า แต่เป็นเรื่องของความอยู่รอดของเราและโลกใบนี้