22 ธ.ค. 2568
เมืองใหญ่ต้องเผชิญกับปัญหามลพิษ ฝุ่น PM2.5 และสภาพอากาศที่ร้อนขึ้นอย่างต่อเนื่อง “พื้นที่สีเขียว” จึงกลายเป็นหัวใจสำคัญของการฟื้นฟูคุณภาพชีวิตในเมือง ไม่ใช่แค่เพื่อความสวยงาม หรือมีไว้พักผ่อนหย่อนใจเท่านั้น แต่ต้นไม้ยังมีบทบาทในการช่วยดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) หนึ่งในก๊าซเรือนกระจกตัวฉกาจที่ส่งผลต่อภาวะโลกร้อนอย่างรุนแรงด้วย
ทว่า คำถามที่น่าสนใจคือ พื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้มากแค่ไหน ? ต้นไม้ 1 ต้น ลด CO2 ได้เท่าไร ? มาหาคำตอบกัน !
ต้นไม้ 1 ต้น ดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้เท่าไร ?
ต้นไม้โตเต็มวัยหนึ่งต้น สามารถดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ได้เฉลี่ยประมาณ 22 กิโลกรัมต่อปี โดยตัวเลขนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย ๆ อย่าง เช่น
หากมองในภาพรวม เราอาจสรุปได้คร่าว ๆ ว่า ต้นไม้ 1 ต้น สามารถลด CO₂ ได้ประมาณ 20-25 กิโลกรัมต่อปี แม้จะดูเหมือนไม่มากนัก แต่ลองจินตนาการว่าถ้าเรามีต้นไม้นับพันต้นหรือทั้งผืนป่า ตัวเลขนี้ก็จะทวีคูณขึ้นและช่วยลดก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมหาศาลเลยทีเดียว
พื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ มีมากน้อยแค่ไหน ?
พื้นที่สีเขียวรวมในกรุงเทพฯ อยู่ที่ประมาณ 25,893 ไร่ หรือคิดเป็นราว 7.49 ตารางเมตรต่อคน (ข้อมูลปี 2565) เมื่อเปรียบเทียบกับมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO) ซึ่งแนะนำว่าเมืองควรมีพื้นที่สีเขียวไม่น้อยกว่า 9 ตารางเมตรต่อคน จะเห็นได้ว่ากรุงเทพฯ ยังคงอยู่ต่ำกว่าเกณฑ์ดังกล่าวพอสมควร
เพื่อแก้ไขปัญหานี้ กรุงเทพมหานครจึงได้ริเริ่มโครงการ Green Bangkok 2030 เปิดตัวครั้งแรกเมื่อเดือนธันวาคม 2562 โดยตั้งเป้าให้กรุงเทพฯ มีพื้นที่สีเขียวอย่างน้อย 10 ตารางเมตรต่อคน ภายในปี 2573 เพื่อให้ผู้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ลองคำนวณดู พื้นที่สีเขียวในกรุงเทพฯ ช่วยดูดซับ CO₂ ได้เท่าไร ?
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น เราลองนำข้อมูลข้างต้นมาประมวลผลแบบง่าย ๆ
สมมติว่าใน 1 ไร่มีต้นไม้โตเต็มวัยประมาณ 100 ต้น (ค่าประมาณคร่าว ๆ จากสวนสาธารณะที่มีการปลูกต้นไม้หนาแน่น) เราจะสามารถคำนวณได้ดังนี้
25,893 ไร่ × 100 ต้น = 2,589,300 ต้น
ต้นไม้ 1 ต้นดูดซับ CO₂ ได้ 22 กิโลกรัม/ปี
ดังนั้น รวมแล้วจะได้ 2,589,300 × 22 = 56,964,600 กิโลกรัมต่อปี หรือประมาณ 56,965 ตันของคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงและสะท้อนให้เห็นว่า พื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่งไม่ใช่แค่เรื่องความสวยงามหรือที่พักผ่อนหย่อนใจเท่านั้น แต่ยังเป็นโครงสร้างสำคัญของเมืองในการรับมือกับสภาวะสิ่งแวดล้อมในอนาคตด้วย
วัน แบงค็อก (One Bangkok) กับแนวคิดเมืองสีเขียว
ในยุคที่ผู้คนมองหาคุณภาพชีวิตควบคู่ไปกับการใช้ชีวิตในเมือง อสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่หลายแห่งจึงหันมาให้ความสำคัญกับพื้นที่เปิดโล่งและพื้นที่สีเขียวมากขึ้น หนึ่งในนั้นคือวัน แบงค็อก (One Bangkok) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางพื้นที่ CBD ย่านวิทยุ-พระราม 4
ด้วยความตั้งใจที่จะเป็นเมืองแห่งอนาคต น่าใช้ชีวิต และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม วัน แบงค็อก (One Bangkok) จึงออกแบบผังอาคารให้รายล้อมด้วยพื้นที่สีเขียวรวมกว่า 50 ไร่ ช่วยปรับสมดุลให้เมืองที่รายล้อมด้วยตึกสูงกลับมามีชีวิตชีวา พร้อมช่วยลดอุณหภูมิบริเวณโดยรอบและยกระดับคุณภาพอากาศให้ดีขึ้น
ส่วนทางเดินเท้าภายในวัน แบงค็อก (One Bangkok) ก็ได้รับการออกแบบให้เป็นมิตรต่อผู้ใช้งานทุกกลุ่ม ทั้งทางลาด ทางเดินกว้าง รองรับการเดินเท้าได้สะดวกและปลอดภัย โดยเชื่อมทุกพื้นที่เข้าด้วยกันอย่างไร้รอยต่อ การเดินภายในวัน แบงค็อก (One Bangkok) จึงกลายเป็นเรื่องง่ายและเพลิดเพลิน ช่วยลดการใช้รถยนต์ในระยะสั้น ๆ เป็นอีกหนึ่งวิธีลดการปล่อยคาร์บอนทางอ้อมที่สำคัญ
เมื่อได้รู้กันไปแล้วว่าต้นไม้ 1 ต้น ลด CO2 ได้เท่าไร และเมื่อรวมพลังกันเป็นผืนป่าในเมืองหรือสวนขนาดใหญ่ ผลลัพธ์ที่ได้คือเมืองที่สะอาด เย็น และน่าอยู่ขึ้นในทุกมิติ ถือเป็นก้าวสำคัญในการสร้างกรุงเทพฯ ที่น่าอยู่อย่างยั่งยืนในอนาคต
หากคุณกำลังมองหาสวนใหญ่กลางเมืองที่ตอบโจทย์ทั้งการพักผ่อนและใช้ชีวิตท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริง “วัน แบงค็อก (One Bangkok)” มีพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่งขนาดใหญ่ใจกลางกรุงเทพฯ มากกว่า 50 ไร่ที่ผสานกับแนวคิดการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน เป็นทั้งแหล่งฟอกอากาศ และจุดหมายใหม่ของคนเมืองที่อยากใกล้ธรรมชาติมากขึ้นทุกวัน เพราะเราเชื่อว่าท้ายที่สุด “เมืองที่ดี” ไม่ได้เกิดจากตึกสูงหรือเทคโนโลยีทันสมัยเพียงอย่างเดียว แต่ต้องมีธรรมชาติที่อยู่ร่วมกับผู้คนได้อย่างสมดุลด้วยเช่นกัน
ข้อมูลอ้างอิง
แท็ก
แชร์