ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หลายองค์กรอาจต้องเผชิญกับปัญหา ไม่ว่าจะเป็นความเหนื่อยล้าของทีมงาน ความรู้สึกอยาก Work from Home แทนการเดินทางเข้าออฟฟิศ หรือการใช้พื้นที่ที่ไม่สอดคล้องกับรูปแบบการทำงานของคนยุคใหม่ ปัญหาเหล่านี้มักไม่ได้เกิดจากตัวงานเพียงอย่างเดียว แต่มาจาก “Layout ของออฟฟิศ” ที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมทั้งการมีสมาธิ ความคิดสร้างสรรค์ และการเชื่อมต่อระหว่างผู้คนอย่างแท้จริง

เมื่อพื้นที่ไม่ช่วยให้โฟกัส ไม่กระตุ้นแรงบันดาลใจ และไม่ส่งเสริมการร่วมมือ Productivity ก็ค่อย ๆ ลดลงโดยองค์กรอาจไม่ทันสังเกต ดังนั้น การจัดพื้นที่สำนักงานหรือปรับโฉม Layout ออฟฟิศ จึงไม่ใช่แค่เรื่องดีไซน์ แต่เป็นการลงทุนเพื่อคุณภาพการทำงานและคุณภาพชีวิตของพนักงานในระยะยาว

แผนผังสำนักงาน (Office Layout) คืออะไร ทำไมจึงสำคัญกับองค์กรยุคใหม่ ?

แก่นสำคัญของ Layout ออฟฟิศ คือ การจัดวางพื้นที่ทำงานทั้งหมดอย่างเป็นระบบและมีกลยุทธ์ ตั้งแต่ตำแหน่งโต๊ะทำงาน ห้องประชุม มุมครีเอทีฟ ไปจนถึงพื้นที่พักผ่อน รวมถึงเส้นทางการเดินและการเชื่อมต่อระหว่างแต่ละโซน ซึ่งล้วนออกแบบขึ้นเพื่อรองรับการทำงานของพนักงานอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด

ในยุคปัจจุบัน Office Layout จึงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของดีไซน์หรือความสวยงามอีกต่อไป แต่เป็น “เครื่องมือสำคัญด้านกลยุทธ์องค์กร” ที่ช่วยให้สามารถเสริมปัจจัยต่าง ๆ ของกระบวนการทำงาน เช่น

เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน

ลดความเครียดและความเหนื่อยล้า

ส่งเสริมสมาธิและความคิดสร้างสรรค์

สร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ผู้คนรู้สึกอยากมาทำงานที่ออฟฟิศ

เมื่อพื้นที่ผ่านการออกแบบให้สอดคล้องกับวิถีการทำงานยุคใหม่ ผลลัพธ์จึงสะท้อนออกมาทั้งในด้านคุณภาพชีวิตของพนักงาน และประสิทธิภาพขององค์กรโดยรวมในระยะยาว ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดการพัฒนาอาคารสำนักงานพรีเมียมใจกลางกรุงเทพฯ ณ วัน แบงค็อก (One Bangkok) ที่มุ่งสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ครบ และตอบโจทย์ทุกมิติของคนทำงานยุคใหม่อย่างแท้จริง

5 ขั้นตอนปรับโฉมรูปแบบ Layout ออฟฟิศ เพิ่ม Productivity คนในองค์กร

เมื่อเข้าใจแล้วว่า Layout ของออฟฟิศคือหัวใจของการทำงานยุคใหม่ ขั้นตอนถัดไปคือการวางแผนและออกแบบพื้นที่ให้ตอบโจทย์ทั้งรูปแบบงาน วิธีทำงานของทีม และเป้าหมายองค์กร

1. วิเคราะห์พฤติกรรมการทำงานจริงของทีม

ก่อนจะเริ่มจัดวางพื้นที่ สิ่งสำคัญคือการทำความเข้าใจก่อนว่าทีมของคุณมีรูปแบบการทำงานอย่างไร เช่น ทีมที่ต้องการสมาธิและพื้นที่เงียบสงบ ทีมที่ต้องการพื้นที่ลื่นไหลสำหรับการประชุมย่อยบ่อยครั้ง หรือทีมที่ต้องเดินไปมาระหว่างโซนงานต่าง ๆ การเก็บข้อมูลพฤติกรรมเหล่านี้จะเป็นพื้นฐานสำคัญของ Layout ที่ใช้งานได้จริง ไม่ใช่เพียงเน้นความสวยงาม

2. แบ่งโซนการใช้งานอย่างมีกลยุทธ์

หลังจากทราบรูปแบบการทำงานของทีมแล้ว ควรแบ่งโซนให้เหมาะสม เช่น

โซนโฟกัสที่ต้องการความเงียบและความเป็นส่วนตัว

โซนประชุมหรือครีเอทีฟที่ต้องการความคล่องตัวสูง

โซนพักผ่อนเพื่อให้ทีมได้เปลี่ยนบรรยากาศและผ่อนคลาย

การจัด Zoning อย่างมีกลยุทธ์จะช่วยลดความวุ่นวาย ลดเสียงรบกวน และทำให้ทุกทีมใช้พื้นที่ร่วมกันได้ราบรื่นขึ้น

3. เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ดีต่อสุขภาพ และปรับเปลี่ยนการใช้งานได้ตามบริบท

เฟอร์นิเจอร์ที่ดีต่อสุขภาพ เช่น เก้าอี้แบบ Ergonomic หรือโต๊ะปรับระดับได้ ถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการป้องกันอาการเมื่อยล้าและลดปัญหาออฟฟิศซินโดรม นอกจากนี้ การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เคลื่อนย้ายง่ายและปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ เช่น โต๊ะประชุมที่จัดใหม่ได้ทันที จะช่วยให้ออฟฟิศมีความยืดหยุ่นและรองรับกิจกรรมได้หลากหลายมากขึ้น

4. ใส่ใจแสงธรรมชาติในพื้นที่

แสงธรรมชาติส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพ การโฟกัส และอารมณ์ของพนักงาน การออกแบบให้พื้นที่ทำงานได้รับแสงอย่างเหมาะสม ทั้งในโซนโฟกัสและโซนพักผ่อน จะช่วยลดความล้า ลดความเครียด และทำให้บรรยากาศโดยรวมโปร่งสบาย อีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงานในระยะยาวอีกด้วย

5. เติมดีไซน์ที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์

ออฟฟิศไม่ควรเป็นเพียงพื้นที่ทำงาน แต่ควรเป็นตัวแทนของแบรนด์ในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นสี วัสดุ ลายเส้น หรือองค์ประกอบตกแต่งต่าง ๆ ดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์จะทำให้พนักงานรู้สึกผูกพันกับองค์กร และช่วยให้นักลงทุนหรือพาร์ตเนอร์สัมผัสถึงจุดยืนของแบรนด์ได้ตั้งแต่ก้าวแรก

ยกระดับการทำงาน ด้วยอาคารสำนักงานพรีเมียม วัน แบงค็อก (One Bangkok) ใจกลางกรุงเทพฯ

เมื่อองค์กรวางพื้นฐานเรื่องรูปแบบออฟฟิศที่ตอบโจทย์แล้ว ขั้นตอนสำคัญถัดมาคือ การเลือกพื้นที่ที่ “สามารถรองรับไอเดียทั้งหมดได้จริง” วัน แบงค็อก (One Bangkok) จึงได้รับการออกแบบขึ้นในฐานะอาคารสำนักงานแบบพรีเมียมในกรุงเทพฯ ที่ช่วยให้องค์กรสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งด้านความสะดวกสบาย สุขภาวะทีมงาน และภาพลักษณ์ที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน

มาตรฐานอาคารที่ออกแบบเพื่อคุณภาพชีวิต

ด้วยระบบกรองอากาศระดับพรีเมียม กระจกฉนวนกันความร้อน และระบบระบายอากาศประสิทธิภาพสูง อาคารของ วัน แบงค็อก (One Bangkok) มอบสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับทุกโซนที่คุณออกแบบ ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่โฟกัส พื้นที่ประชุม หรือมุมสร้างสรรค์ ช่วยให้ทีมงานทำงานได้อย่างมีคุณภาพในทุกวัน

เทคโนโลยีอัจฉริยะที่เสริมการใช้งานทุกวัน

วัน แบงค็อก (One Bangkok) ผสานเทคโนโลยีระดับ Smart City เช่น ระบบ Face Recognition ระบบจอดรถอัจฉริยะ และระบบจัดการพลังงานอัจฉริยะ ช่วยให้การใช้งานพื้นที่เป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย นอกจากนี้ยังมี Wi-Fi ประสิทธิภาพสูงครอบคลุมทั่วทั้งอาคาร ไม่ว่าพนักงานจะต้องการความเงียบสงบ  จุดประกายความบันดาลใจ หรือพักผ่อน ก็สามารถเชื่อมต่อและทำงานออนไลน์ได้ทุกที่แบบไม่มีสะดุด

ตัวเลือกอาคารที่สอดคล้องกับสไตล์องค์กร

วัน แบงค็อก (One Bangkok) มาพร้อมตัวเลือกอาคารสำนักงานหลายแบบ ตั้งแต่อาคารเชื่อมศูนย์การค้า อาคารที่ติดพื้นที่สีเขียว ไปจนถึงอาคารที่มีพื้นที่ต่อชั้นขนาดใหญ่ เพื่อให้องค์กรสามารถออกแบบ Layout ได้อย่างยืดหยุ่นและสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของธุรกิจมากที่สุด

สัมผัสประสบการณ์การทำงานที่เหนือระดับ และสำรองพื้นที่สำนักงานสำหรับอนาคตของธุรกิจคุณได้แล้ววันนี้ที่ วัน แบงค็อก (One Bangkok)

ข้อมูลอ้างอิง

Design Your Dreamspace: Architecting the Perfect Office Floor Plan. สืบค้นเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2568 จาก https://medium.com/@matt-sharon/design-your-dreamspace-architecting-the-perfect-office-floor-plan-fea2b9dea5aa.