ศิลปะ ถือเป็นกระจกสะท้อนสังคมที่สามารถเข้าถึงและส่งต่อแรงบันดาลใจให้แก่ผู้คนได้อย่างไม่จำกัด ในอดีต การชื่นชมงานศิลปะอาจจำกัดอยู่แค่ในพิพิธภัณฑ์ หรือแกลเลอรีเท่านั้น แต่ในปัจจุบัน แนวคิด “ศิลปะสาธารณะ” (Public Art) มีความน่าสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความเข้าถึงง่ายและสะท้อนสังคม ทำให้ผู้เสพงานศิลป์ได้รู้สึกมีปฏิสัมพันธ์ร่วมด้วย

โครงการวัน แบงค็อก (One Bangkok) จึงจัดสรรให้มีพื้นที่ชมงานศิลปะระดับโลกได้ง่าย ๆ ในโซน One Bangkok Public Art Collection ตามคอนเซปต์ Open Up Art to Life ที่ทำให้ศิลปะกลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมเมือง โดยเชื่อมต่อทุกประสบการณ์ทางศิลปะและวัฒนธรรมผ่าน Art Loop เส้นทางแห่งศิลปะที่รวมศิลปะจัดวางและกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ ที่หลอมรวมและเชื่อมโยงกันจนเกิดเป็นประสบการณ์การเสพศิลปะที่เปิดกว้าง และแตกแขนง ไปตามแรงบันดาลใจและจินตนาการของแต่ละคน จุดประกายเส้นทางใหม่ที่ไร้ขีดจำกัดและเต็มไปด้วยความเป็นไปได้ไม่สิ้นสุด

เปิดลายแทงงานศิลปะสาธารณะที่วัน แบงค็อก (One Bangkok)

หนึ่งในจุดเด่นของศิลปะในวัน แบงค็อก (One Bangkok) คือการนำเสนอผลงานระดับโลกที่ผสมผสานศิลปะเข้ากับสภาพแวดล้อมของเมือง ผ่าน Art Loop เส้นทางแห่งศิลปะที่ครอบคลุมทั่วทั้งโครงการ เป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร โดยมีศิลปะแลนด์มาร์กที่น่าสนใจ ดังนี้ 

1. Zero ของ Elmgreen & Dragset

Zero ผลงานโดย Elmgreen & Dragset ศิลปินคู่หูชื่อดังระดับโลก ซึ่งเป็นประติมากรรมสาธารณะที่โดดเด่นและท้าทายสายตา ด้วยแนวคิดสระว่ายน้ำในแนวตั้ง ที่เปิดโอกาสให้ผู้ชมตีความและเติมความหมายของตนเองลงไปในช่องว่างกลางผลงาน นำเสนอประสบการณ์ใหม่ที่เชื่อมโยงศิลปะเข้ากับสถาปัตยกรรมและสภาพแวดล้อมเมือง

2. Fly ของ Alex Face

Fly เป็นประติมากรรมบรอนซ์ขนาดใหญ่ที่สุดของ Alex Face ศิลปินสตรีทอาร์ตชื่อดังของไทยที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการสะท้อนถึงความปรารถนาของมนุษย์ในการก้าวข้ามอุปสรรค ผ่านสัญลักษณ์ของการลอยละล่องไปกับควันสีขาวที่พวยพุ่งจากกระป๋องสเปรย์ โดยความท้าทายของการสร้างสรรค์ชิ้นนี้อยู่ที่การออกแบบ ‘ควัน’ ให้มีลักษณะบางเบา ล่องลอย สมจริง พร้อมต้องรองรับน้ำหนักของประติมากรรมทั้งหมด จึงนับเป็นความท้าทายทางศิลปะและโครงสร้างทางวิศวกรรมอย่างแท้จริง โดยผลงานนี้เป็นชิ้นแรกจากทั้งหมด 3 ชิ้นในซีรีส์ และเป็นเพียงชิ้นเดียวที่จัดแสดงในประเทศไทย

3. It is, It isn’t ของ Tony Cragg

It Is, It Isn't คือประติมากรรมสเตนเลสสูง 7.8 เมตร ซึ่งเป็นผลงานของ Tony Cragg ศิลปินชาวอังกฤษระดับโลก ผู้ได้รับการยอมรับในฐานะประติมากรแนวหน้าของยุค โดยได้รับแรงบันดาลใจจากรูปร่างมนุษย์ ถ่ายทอดออกมาเป็นรูปทรงนามธรรมที่สามารถรับชมได้จากหลากหลายมุมมอง ทุกองศามีความแตกต่าง ทั้งในด้านรูปทรง แสงเงา และการสะท้อน กระตุ้นให้เกิดคำถามว่า “ใช่หรือไม่ใช่” สิ่งที่กำลังคิด ด้วยเส้นโค้งที่ลื่นไหลและพื้นผิวที่แวววาว ผสมมผสานวัสดุอุตสาหกรรมอย่างสเตนเลสเข้ากับบริบทโดยรอบอย่างกลมกลืน

4. S-Curve ของ Anish Kapoor

S-Curve เป็นผลงานของ Anish Kapoor หนึ่งในประติมากรระดับโลก ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะและวิศวกรรม ซึ่งทำจากสเตนเลสสตีลขัดเงาจนสะท้อนราวกับกระจก ผิวโค้งเว้าของประติมากรรมสร้างมุมมองใหม่ที่ชวนตื่นตาตื่นใจ โดยการบิดเบือนภาพสะท้อนของผู้คน เมือง และธรรมชาติโดยรอบ ให้ดูยืดหด หมุนวน ผสมผสานกันเป็นหนึ่งเดียว ซึ่ง S-Curve ได้เดินทางไปจัดแสดงทั่วโลกมาตั้งแต่ปี 2006 และวันนี้ผลงานชิ้นแรกจาก 3 อิดิชัน ก็ได้มาประจำอยู่ที่วัน แบงค็อก (One Bangkok) อย่างถาวรแล้ว

วัน แบงค็อก (One Bangkok) จุดหมายปลายทางแห่งศิลปะและวัฒนธรรม

นอกจากศิลปะสาธารณะแล้ว วัน แบงค็อก (One Bangkok) ยังได้รับการออกแบบให้เป็น “Cultural Hub” ซึ่งให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงศิลปะกับสถาปัตยกรรมเมือง โดยแนวคิดหลักของการออกแบบงานศิลปะในโครงการนี้ ได้แก่

การเชื่อมโยงอดีตกับอนาคต

ด้วยทำเลที่ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์  วัน แบงค็อก (One Bangkok) จึงให้ความสำคัญกับการออกแบบศิลปะที่สะท้อนถึงมรดกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ของพื้นที่ โดยเชื่อมโยงเรื่องราวในอดีตเข้ากับความร่วมสมัย ผ่าน The Wireless House ที่เล่าถึง “Sense of Roots” ที่บอกเล่าเรื่องราวของพื้นที่ รวมถึงการออกแบบสถาปัตยกรรมที่คงความเป็นไทยแต่แฝงไปด้วยความล้ำสมัย

สร้างสรรค์งานศิลปะที่กลมกลืนไปกับธรรมชาติ

วัน แบงค็อก (One Bangkok) ให้ความสำคัญกับการสร้างพื้นที่ที่เชื่อมโยงศิลปะเข้ากับธรรมชาติ ทำให้งานศิลปะไม่ได้จำกัดอยู่แค่ภายในแกลเลอรี แต่กระจายอยู่ตามสวนสาธารณะและพื้นที่เปิดโล่งในโครงการ ไม่ว่าจะเป็นประติมากรรมกลางแจ้ง (Outdoor Sculptures) ที่สามารถสัมผัสได้จริง ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้คนมีปฏิสัมพันธ์กับงานศิลปะ รวมถึงศิลปะในรูปแบบของภูมิสถาปัตยกรรม ที่ได้รับการออกแบบให้กลมกลืนกับธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นทางเดินหินที่สร้างลวดลายศิลปะ หรือลานน้ำพุที่มีแสงสะท้อนเล่นกับสถาปัตยกรรมรอบข้าง ตลอดจนช่วยให้งานศิลปะเป็นเรื่องที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ผ่าน Art Loop เส้นทางแห่งศิลปะที่ประกอบไปด้วยโปรแกรม ชิ้นงาน และกิจกรรมมากมายหลากหลายรูปแบบ

นำสื่อดิจิทัลและเทคโนโลยี Interactive มาใช้ในนิทรรศการ

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต วัน แบงค็อก (One Bangkok) ได้นำเทคโนโลยี AI, AR และ Interactive Art มาช่วยเพิ่มมิติใหม่ให้แก่การชมศิลปะ ทำให้ผู้เข้าชมสามารถมีส่วนร่วมกับงานศิลปะได้มากขึ้น

วัน แบงค็อก (One Bangkok) ไม่ได้เป็นเพียงโครงการขนาดใหญ่ แต่ยังเป็นศูนย์กลางงานศิลปะใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งนำเสนอผลงานระดับโลกที่เชื่อมโยงวัฒนธรรม ศิลปะ ธรรมชาติ เข้าด้วยกันกับเมืองได้อย่างลงตัว สำหรับผู้ที่สนใจเยี่ยมชมนิทรรศการศิลปะในกรุงเทพฯ ผ่านกิจกรรมที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผลงานศิลปะหลากหลายแขนง รวมถึงงานเวิร์กช็อปที่น่าสนใจ ต้องไม่พลาดมาเยี่ยม มาชม มาเสพงานศิลปะในวัน แบงค็อก (One Bangkok)