20 พ.ค. 2568
ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในยุคดิจิทัล การปรับตัวของสถานที่ทำงานคือสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ทำให้การสร้างสรรค์อาคารอัจฉริยะและพื้นที่ทำงานแห่งอนาคตกลายเป็นทางเลือกใหม่ที่องค์กรให้ความสำคัญเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอย่างยั่งยืน
ทำความรู้จัก Smart Building และ Smart Office อนาคตของพื้นที่ทำงานที่ยั่งยืน
Smart Building และ Smart Office เป็นสองแนวคิดสำคัญที่กำลังเปลี่ยนแปลงโลกของการทำงานในยุคดิจิทัล โดย Smart Building เป็นรากฐานของอาคารที่ใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืนของโครงสร้างและการใช้อาคาร ส่วน Smart Office มุ่งเน้นไปที่การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ทันสมัยและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของพนักงาน
Smart Building โครงสร้างพื้นฐานที่ขับเคลื่อนสำนักงานอัจฉริยะ
Smart Building หรืออาคารอัจฉริยะ คือรากฐานสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เกิด Smart Office ได้ โดยช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย ด้วยเทคโนโลยีที่ช่วยบริหารจัดการระบบต่าง ๆ ภายในอาคาร ไม่ว่าจะเป็นระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูง ที่ช่วยให้พนักงานและผู้มาติดต่อสามารถเข้า-ออกอาคารได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ไร้สัมผัส ทั้งในการใช้ Face Recognition, QR Code รวมถึงการควบคุมระบบสาธารณูปโภค เช่น พลังงาน น้ำ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความปลอดภัยตลอดจนระบบสาธารณูปการที่ดีให้แก่ผู้ใช้อาคาร โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสังคมรอบข้าง ซึ่งมีจุดเด่นหลัก ดังนี้
Building Automation System (BAS) ควบคุมระบบไฟฟ้า น้ำ ระบบปรับอากาศ ความปลอดภัยแบบอัตโนมัติ
Energy Efficiency ใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
Smart Security ระบบกล้องวงจรปิด AI และระบบเข้า-ออกแบบไร้สัมผัส
Sustainable Design รองรับมาตรฐาน LEED-ND และ WELL เพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม
WiredScore และ SmartScore โดยได้รับการรับรองมาตรฐาน WiredScore ระดับ Platinum สำหรับการเชื่อมต่อดิจิทัลที่โดดเด่น และ SmartScore ซึ่งเป็นมาตรฐานการรับรองอาคารสำนักงานอัจฉริยะที่ได้รับการยอมรับทั่วโลก ในระดับ Platinum เช่นกัน
Smart Office พื้นที่ทำงานแห่งอนาคต
Smart Office คือแนวคิดของพื้นที่ทำงานยุคใหม่ ที่นำเทคโนโลยีมาใช้ในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน พร้อมทั้งออกแบบมาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของพนักงานในยุคดิจิทัล ซึ่งสามารถลดค่าใช้จ่ายในด้านต่าง ๆ โดยเน้นความยืดหยุ่น การเชื่อมต่อ เพื่อเอื้อให้เกิดการทำงานที่มีศักยภาพในทุกพื้นที่ ตามองค์ประกอบสำคัญของสถานที่ทำงานที่ดี เช่น
Hybrid Workplace รองรับการทำงานทั้งในสำนักงานและจากระยะไกล
IoT และระบบอัตโนมัติ ควบคุมแสงสว่าง อุณหภูมิ ระบบรักษาความปลอดภัย
การทำงานร่วมกันของอาคารอัจฉริยะ (Smart Building) และพื้นที่ทำงานแห่งอนาคต (Smart Office)
ปัจจุบัน Smart Building และ Smart Office เป็นสองแนวคิดที่ทำงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีประสิทธิภาพ และมีความยั่งยืน ให้เหมาะสมกับการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล
รองรับระบบการทำงานอัตโนมัติ
Smart Building และ Smart Office ทำงานร่วมกันผ่านระบบอัตโนมัติที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยระบบ IoT ของ Smart Office จะเชื่อมต่อกับ Smart Building ทำให้สามารถแชร์ข้อมูลระหว่างกันได้ เพื่อช่วยให้การจัดสรรพื้นที่และการใช้พลังงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การปิดระบบปรับอากาศและแสงสว่างในพื้นที่ที่ไม่มีการใช้งาน
การออกแบบที่คำนึงถึงสุขภาพและคุณภาพชีวิต
การผสานเทคโนโลยี Smart Building และ Smart Office ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตการทำงานและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยระบบควบคุมคุณภาพอากาศใน Smart Building จะตรวจวัดและส่งข้อมูลไปยัง Smart Office เพื่อแสดงผลและปรับระบบระบายอากาศให้เหมาะสม นอกจากนี้ ระบบแสงสว่างอัจฉริยะของ Smart Building ยังสามารถปรับความสว่างตามแสงธรรมชาติและพฤติกรรมการใช้งานของพนักงานจากการถูกเก็บข้อมูลโดย Smart Office
ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนและการบริหารจัดการอย่างยั่งยืน
การพัฒนา Smart Building และ Smart Office ไม่ได้เป็นเพียงการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและช่วยลดผลกระทบจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยเป็นการทำงานร่วมกันผ่านระบบพลังงานหมุนเวียนและเทคโนโลยีบริหารจัดการพลังงานอัจฉริยะ เพื่อให้เกิด Net Zero Emission ซึ่งเป็นแนวคิดที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้เป็นศูนย์ เช่น โครงสร้างที่รองรับสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ หรือ เทคโนโลยีดิจิทัลที่ช่วยติดตามและวิเคราะห์การใช้พลังงานของสำนักงานแบบเรียลไทม์ ช่วยให้องค์กรสามารถบริหารจัดการพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้พลังงานส่วนเกิน
ระบบความปลอดภัยอัจฉริยะ
การผสมผสานระบบรักษาความปลอดภัยของ Smart Building และ Smart Office ช่วยเพิ่มระดับความปลอดภัย ด้วยการใช้เทคโนโลยีอัจฉริยะที่ช่วยป้องกันความเสี่ยง ลดข้อผิดพลาดจากมนุษย์ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยยิ่งขึ้น เช่น ระบบเข้า-ออกแบบไร้สัมผัส ระบบติดตามการเข้าออกที่ช่วยเพิ่มการเฝ้าระวัง รวมถึงมาตรการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ระบบเข้ารหัสข้อมูล และการตรวจสอบการใช้งานเครือข่าย
วัน แบงค็อก (One Bangkok) อาคารสำนักงานอัจฉริยะใจกลางกรุงเทพฯ ที่ตอบโจทย์อนาคตของธุรกิจ
จากแนวคิด Smart Building และ Smart Office ที่กล่าวมา วัน แบงค็อก (One Bangkok) ได้ผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะเข้ากับการออกแบบพื้นที่ทำงานระดับพรีเมียม เพื่อรองรับการทำงานในยุคดิจิทัลและสร้างสภาพแวดล้อมที่ยั่งยืนสำหรับธุรกิจ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างโครงการเมืองอัจฉริยะสีเขียวใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งพัฒนาขึ้นให้สอดคล้องกับแนวคิดและเป้าหมายระดับโลก ตลอดจนมาตรฐานระดับสากลต่าง ๆ เช่น เป้าหมาย Sustainable Development Goals: SDGs ของสหประชาชาติ การออกแบบให้สอดคล้องกับมาตรฐาน LEED-ND (Leadership in Energy and Environmental Design) และแนวคิด Smart City ซึ่งเน้นการใช้พลังงานสะอาดและเทคโนโลยีในการบริหารจัดการอาคาร ดังนี้
เทคโนโลยี IoT และ AI
ช่วยควบคุมและจัดการสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างอัจฉริยะ เช่น ระบบควบคุมแสงสว่างและอุณหภูมิอัตโนมัติ รวมถึงเซ็นเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศ ทำให้สามารถปรับสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการทำงาน เหมาะกับผู้อยู่อาศัยและใช้งานอาคาร ตลอดจนลดการใช้พลังงานโดยไม่จำเป็น
Smart Access & Security System
ระบบรักษาความปลอดภัยระดับสูง ที่ช่วยให้พนักงานและผู้มาติดต่อสามารถเข้า-ออกอาคารได้อย่างสะดวกและปลอดภัย โดยใช้ Face Recognition, QR Code ที่สามารถตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติได้แบบเรียลไทม์ ช่วยเพิ่มความปลอดภัยภายในโครงการอย่างครอบคลุม รอบด้าน
Smart Energy Management
โดยใช้ District Cooling System หรือระบบทำความเย็นแบบรวมศูนย์ ที่ช่วยลดการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศแบบเดิม นอกจากนี้ยังใช้ Smart Grid ในการบริหารพลังงานของอาคาร ร่วมกับพลังงานหมุนเวียน รวมถึงระบบ Smart Metering ที่สามารถตรวจสอบการใช้พลังงานของแต่ละอาคารแบบเรียลไทม์ เพื่อลดต้นทุนและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Digital Workplace
รองรับการทำงานแบบ Hybrid Work & Co-Working Space โดยมี Flexible Office Space ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานได้ตามความต้องการไม่ว่าจะในระดับองค์กร สำนักงาน หรือระดับบุคคล
Walkable City
นอกจากเทคโนโลยีและระบบอัจฉริยะแล้ว วัน แบงค็อก (One Bangkok) ยังให้ความสำคัญกับ Urban Green Space โดยออกแบบให้เป็น Walkable City หรือเมืองที่ผู้คนสามารถเดินถึงกันได้สะดวกผ่านการเชื่อมต่อกับ MRT พร้อมด้วยพื้นที่สีเขียวและพื้นที่เปิดโล่งขนาด 50 ไร่ ที่ช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานที่ผ่อนคลาย
การปรับตัวสู่อาคารสำนักงานอัจฉริยะ คือสิ่งจำเป็นสำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพควบคู่ไปกับการพัฒนาที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในเทคโนโลยีและการออกแบบที่ตอบสนองต่อความต้องการของพนักงาน ล้วนช่วยเพิ่มความพึงพอใจและดึงศักยภาพในการทำงานออกมาได้อย่างชัดเจน หากกำลังมองหาอาคารสำนักงานอัจฉริยะในกรุงเทพฯ ที่ตอบสนองต่อความต้องการของธุรกิจยุคใหม่ วัน แบงค็อก (One Bangkok) คือโครงการที่นำเสนออาคารสำนักงานต้นแบบแห่งอนาคต ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีอัจฉริยะและการออกแบบที่ยั่งยืน เพื่อสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ สามารถเยี่ยมชมโครงการได้แล้ววันนี้
ข้อมูลอ้างอิง
What is a Smart office?. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568 จาก https://www.indeed.com/recruitment/c/info/smart-office
Smart buildings, explained. สืบค้นเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2568 จาก https://www.ucem.ac.uk/whats-happening/articles/smart-buildings/
แท็ก
แชร์